รักที่สายไปขอวางไว้ตรงนั้น - 1-30 - บทที่ 17
“ใคร?”
ลี่หานเหนียนหันศีรษะไปมอง รออยู่สองสามวินาที แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ซ่งรั่วชิงได้สติผลักลี่หานเหนียนออก “ปล่อยฉัน”
ด้วยจิตใจที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร คราวนี้ลี่หานเหนียนปล่อยมือเธอแต่โดยดี ถอยหลังไปสองก้าว มองซ่งรั่วชิงด้วยสายตาเย็นชา
ใบหน้าของหญิงสาวเล็กเรียวสวยงาม ภายใต้แสงไฟยามค่ำคืน ผิวขาวผ่องราวกับมีแสงสว่าง ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความโกรธมีประกายระยิบระยับ
เมื่อเห็นซ่งรั่วชิงในสภาพเช่นนี้ เขาก็พลันหายโกรธ
“พวกเรายังไม่ได้หย่ากัน” เขากล่าวเตือนอย่างแผ่วเบา
“ยังไงก็ต้องหย่าอยู่ดี” ซ่งรั่วชิงจัดเสื้อผ้าของตัวเอง
เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว แต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับ เงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับดวงตาลึกล้ำที่ชายหนุ่มมองมา ราวกับมีแสงเหนือแห่งจักรวาลส่องประกายอยู่ภายใน งดงามและเต็มไปด้วยอันตราย
หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะไปหนึ่งครั้ง แต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย “ทำไมล่ะ ลืมไปแล้วหรือว่าคุณจะให้เย่เฟยเฟยขึ้นมาแทนที่ฉัน”
ลี่หานเหนียนถูกเตือน สีนหน้าก็ดูงุนงงไปบ้าง
ใช่ เขาตัดสินใจไปนานแล้วว่าจะต้องไม่ให้เย่เฟยเฟยเป็นเหมือนเธอ!
การแต่งงานครั้งนี้ต้องจบลง
“ถ้าคุณรักเย่เฟยเฟย ก็จงรักเธออย่างหมดหัวใจ อย่างนั้นฉันยังจะนับถือในความรักมั่นของคุณได้ แต่ตอนนี้ คุณกลับทำให้ฉันรู้สึกรังเกียจ”
พูดจบ ซ่งรั่วชิงก็หันหลังเดินจากไป ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายบ้าๆ คนนี้อีก
ตลอดทางกลับไปห้องประมูล การประมูลก็เริ่มขึ้นแล้ว เธอเดินไปนั่งข้างจี้อวิ๋นหล่าง
แต่การประมูลหลังจากนั้นเธอกลับใจลอยเล็กน้อย นั่งอยู่ครู่หนึ่งก็รู้สึกหงุดหงิด จึงกล่าวว่า “พี่อวิ๋นหล่างคะ ฉันไม่มีของที่อยากซื้อ วันนี้ขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมไปส่ง” จี้อวิ๋นหล่างก็เตรียมจะลุกขึ้น
เธอรีบปฏิเสธ “ไม่ค่ะ ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันกลับเองได้”
จี้อวิ๋นหล่างไม่ได้เซ้าซี้ เพียงแต่สายตาที่มองเธอมีความซับซ้อนเล็กน้อย หยุดชะงักแล้วกล่าวว่า “ชิงชิง ถ้าคุณมีปัญหาอะไร บอกผมได้นะครับ ผมยินดีช่วย”
ซ่งรั่วชิงตัวสั่นเล็กน้อย พลันเข้าใจขึ้นมา เสียงที่ดังขึ้นเมื่อครู่ ไม่ใช่ใครบังเอิญไปชนอะไร แต่เป็นจี้อวิ๋นหล่าง เขาจงใจขัดจังหวะ
ดังนั้น เขารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
“ขอโทษครับ ผมแค่เห็นว่าคุณไปนานเกินไป…” จี้อวิ๋นหล่างก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจบ้าง
อย่างไรเสียการแอบฟังก็ไม่ใช่พฤติกรรมของสุภาพบุรุษ
“ไม่เป็นไรค่ะ” ซ่งรั่วชิงได้สติคิด ในเมื่อเรื่องนี้ถึงอย่างไรหลังจากหย่ากันจริงๆ ทุกคนก็จะรู้ ตอนนั้นก็คงได้เห็นเธอเป็นตัวตลกอยู่ดี
ตอนนี้ก็แค่เร็วกว่ากำหนดไปหน่อยเท่านั้น เธอทำใจยอมรับได้นานแล้ว
“คุณอาซ่งรักคุณมากขนาดนั้น คงจะไม่…”
“นี่ไม่ใช่เพราะพ่อของฉันค่ะ เป็นความผิดของฉันเอง” เธอรีบขัดคำพูดของจี้อวิ๋นหล่าง แล้วกำชับอีกว่า “หวังว่าเรื่องวันนี้ คุณจะไม่บอกคนในครอบครัวของฉันนะคะ”
จี้อวิ๋นหล่างมีคิ้วที่หล่อเหลา ดวงตาเต็มไปด้วยความจริงใจ “เรื่องวันนี้ ผมจะไม่บอกใครทั้งนั้นครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
ซ่งรั่วชิงพยักหน้าแล้วลุกขึ้นจากไป
เดิมทีการได้พบคนรู้จักเก่าควรจะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่การถูกจี้อวิ๋นหล่างเห็นในสภาพที่น่าอับอายที่สุด เธอก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจจริงๆ
…
กลับมาถึงบ้านพักคู่บ่าวสาว ลี่หานเหนียนยังไม่กลับมา บางทีวันนี้อาจจะไม่กลับมา
ถึงแม้จะอยู่ด้วยกัน แต่ลี่หานเหนียนก็ไม่เคยเชื่อฟังเธอขนาดนี้
พ่อบ้านกำลังคุยโทรศัพท์กับท่านประธานลี่ “ครับ ท่านประธาน ผมจะจัดการให้เรียบร้อยแน่นอนครับ”
เห็นซ่งรั่วชิงกลับมา ก็รีบวางสาย ยิ้มต้อนรับ “คุณนายกลับมาแล้วครับ ต้องการรับประทานอาหารว่างตอนกลางคืนไหมครับ”
“ไม่ต้องค่ะ ตอนกลางคืนฉันไม่ทานอะไร รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ”
“คุณนายพักผ่อนมากๆ นะครับ”
เธอพยักหน้าแล้วตรงกลับห้องไปเลย ลี่หานเหนียนยังไม่สนใจว่าความสัมพันธ์ที่เลวร้ายของทั้งสองจะถูกเปิดเผย เธอก็ไม่มีอะไรต้องปกป้องอีกต่อไป
ตรงไปอาบน้ำ เกือบจะหลับไปแล้วด้วยซ้ำ ฝืนลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบาก พอล้มตัวลงนอนก็ลุกไม่ขึ้นอีกเลย
ช่วงนี้เธอก็ไม่รู้เป็นอะไร ร่างกายอ่อนเพลียเป็นพิเศษ
แทบจะทันทีที่ศีรษะแตะหมอน เธอก็หลับไป
…
ตอนกลางดึกเธอได้ยินเสียงแว่วๆ แต่ก็ตื่นไม่ไหว คาดว่าน่าจะเป็นลี่หานเหนียนกลับมา แต่หลับไปเสียได้ก็ดี ไม่ต้องทักทาย แล้วเธอก็หลับไปอีก
ทันใดนั้น เธอก็ลืมตาโพลง มองไปยังชายหนุ่มที่ทาบทับอยู่บนร่าง
ในความมืด เธอยังคงสัมผัสได้ถึงสายตาที่ราวกับถูกหมาป่าล่าเหยื่อจ้องมอง
“ลี่หานเหนียน”
เธอเอ่ยชื่อนั้นออกมาด้วยความหงุดหงิด “คุณต้องการอะไรกันแน่?”
จากนั้นก็ดิ้นรนอย่างรุนแรง
“อย่าขยับ” เสียงของลี่หานเหนียนแหบพร่า ราวกับกำลังพยายามระงับอะไรบางอย่าง กัดฟันพูด “ถ้ายังดิ้นอีก ผมไม่รับประกันว่าจะไม่ทำอะไรคุณ”
เธอฟังออกว่ามีอะไรผิดปกติ หันไปเปิดโคมไฟข้างเตียง
แสงสลัวทำให้เธอเห็นชัดเจนว่าใบหน้าของชายหนุ่มแดงผิดปกติ แม้กระทั่งดวงตาก็แดงก่ำ
ลมหายใจของชายหนุ่มไม่สม่ำเสมอ สายตาที่จ้องมองเธอเริ่มดุดันมากขึ้น ราวกับพร้อมที่จะกลืนกินเธอทั้งตัว
“คุณ…” สภาพแบบนี้คุ้นเคยมาก ครั้งหนึ่งเธอก็เคยเป็น “ถูกวางยา”
ลี่หานเหนียนไม่ได้พูดอะไร แต่นั่นก็เห็นได้ชัดว่าเป็นการยอมรับ
เวลานี้เธอไม่มีเวลาคิดว่าใครเป็นคนวางยาให้ลี่หานเหนียน แต่กำลังคิดว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร
มีความสัมพันธ์กัน?
ไม่ได้เด็ดขาด!
เรียกเย่เฟยเฟยมา กลางดึกดื่นแบบนี้ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ แค่ด่านพ่อบ้านตระกูลลี่ก็คงไม่ผ่านแล้ว
และครั้งที่แล้วเธอถูกวางยาพิษยังทนได้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ครั้งนี้จะต้องให้ช่วย
เดี๋ยวนะ ครั้งที่แล้วเธอถูกวางยา?
เธอนึกขึ้นได้ “คุณไปอาบน้ำเย็นเดี๋ยวนี้เลย”
ชายหนุ่มไม่ขยับ ดวงตาเย็นชาคู่นั้นราวกับถูกไฟเผา ภายในลึกล้ำ จ้องมองเธอด้วยสายตาที่อันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ
แย่แล้ว!
แน่นอนว่าวินาทีต่อมา ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ทาบทับลงมา
เธอรีบหันศีรษะหลบ แต่เขากลับไม่สนใจ เริ่มโจมตีที่อื่น
ความรู้สึกร้อนรุ่มนั้นทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวายตามไปด้วย
กัดฟัน เธอโน้มตัวไปข้างหน้า กัดเข้าที่หูของชายหนุ่มอย่างแรง ใช้แรงทั้งหมดที่มี
“อืมฮึ” ลี่หานเหนียนร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด
ซ่งรั่วชิงคลายปากออก “รู้สึกตัวขึ้นบ้างไหม”
ถ้ายังไม่รู้สึกตัว เธอก็ไม่รังเกียจที่จะกัดอีกคำ
ร่างของลี่หานเหนียนแข็งทื่อ หายใจเข้าออกสองสามครั้ง ก่อนจะยันตัวขึ้นจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา
ผู้หญิงคนนี้กัดได้เจ็บจริงๆ
และในคืนเข้าหอ ถึงกับวางยาเพื่อที่จะได้เขา แต่ตอนนี้มีโอกาสทองกลับไม่ยอม หรือว่าจงใจยั่วเย้า หรือว่าเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นแล้ว
เมื่อคิดถึงภาพที่ซ่งรั่วชิงหัวเราะพูดคุยกับจี้อวิ๋นหล่างในวันนี้ นั่นเป็นท่าทีที่ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยมีต่อเขามาก่อน
ช่างเถอะ เขายังไม่จำเป็นต้องบังคับผู้หญิงคนหนึ่ง
กระแสความร้อนไหลบ่าเข้ามาอีกครั้ง ลี่หานเหนียนใช้กำลังใจสุดท้ายหันหลังเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ
ประตูห้องน้ำปิดลง ซ่งรั่วชิงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
สติของเธอกลับมาแจ่มใส ไม่กล้าหลับอีก กลัวว่าลี่หานเหนียนจะคลุ้มคลั่งอีก
แต่ตอนแรกยังวางใจได้ ครึ่งชั่วโมงผ่านไปข้างในยังไม่มีความเคลื่อนไหว เธอก็เริ่มกังวลเล็กน้อย
ผู้ชายคนนั้นคงจะไม่เป็นลมอยู่ในนั้นหรอกนะ
ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็เดินไปเคาะประตู “ลี่หานเหนียน คุณยังรู้สึกตัวอยู่ไหม?”
ไม่มีเสียงตอบรับ?
แย่แล้ว!
ซ่งรั่วชิงไม่สนใจอะไรอีกต่อไป ผลักประตูเข้าไปโดยตรง โชคดีที่ไม่ได้ล็อค
แต่ทันทีที่เข้าไป บรรยากาศก็เงียบสงัดลงทันที