รักที่สายไปขอวางไว้ตรงนั้น - 1-30 - บทที่ 1
ณ ห้องพักผู้ป่วยวีไอพีอันกว้างขวางและหรูหรา ความเงียบสงัดปกคลุมราวเข็มหล่นได้ยิน เพียงเสียงสัญญาณชีพจากเครื่องมือแพทย์ข้างเตียงที่ดังแผ่วเบาอย่างเดียวดาย
ซ่งรั่วชิงค่อยๆ ปรือเปลือกตา มองแสงตะวันภายนอก รู้ดีว่าตนเองได้มีชีวิตล่วงเลยมาอีกหนึ่งวัน
นางนอนเดียวดายเช่นนี้นานเท่าใดมิอาจทราบ จนกระทั่งพยาบาลผู้ดูแลเข้ามาเปลี่ยนยาให้
“คุณนายลี่ฟื้นแล้ว วันนี้รู้สึกอย่างไรบ้างคะ?”
พยาบาลเอ่ยถามสารพัด แต่ซ่งรั่วชิงมิได้ใส่ใจฟังแม้แต่น้อย
จนกระทั่งได้ยินเสียงพยาบาลกล่าวว่า “ท่านประธานลี่คงยุ่งมากจริงๆ ค่ะ หากเสร็จธุระแล้วคงมาเยี่ยมคุณนายแน่นอน”
มาเยี่ยมนางหรือ?
ฟังดูก็รู้ว่าเป็นคำโกหก
หนึ่งเดือนก่อน รถของนางเบรกมีปัญหา จนเกิดอุบัติเหตุ เวลานี้ล่วงเลยมาหนึ่งเดือนแล้ว แม้แต่หนังสือยินยอมให้ผ่าตัดยังต้องส่งไปให้เซ็นที่กลุ่มบริษัทลี่ เขาไม่เคยแม้แต่จะชายตามองภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างนางเลยสักครั้ง
ในใจของเขามีเพียงเย่เฟยเฟยเสมอมา
ก็จริงดังว่า การแต่งงานครั้งนี้เป็นสิ่งที่นางดึงดันมาแต่แรก เพราะความดึงดันนั้นเองที่นำพาให้ตระกูลซ่งล่มจม บิดาฆ่าตัวตาย พี่ชายจากไปไกล แม้กระทั่งลูกของนางก็ยังรักษาไว้ไม่ได้
เย่เฟยเฟยผลักนางตกสระน้ำเย็นเยียบในฤดูหนาว ตอนนั้นเขามิได้เอ่ยคำใด กลับอุ้มเย่เฟยเฟยที่ยืนตัวสั่นหน้าซีดอยู่ริมสระไป โดยไม่แม้แต่จะมองนางที่หนาวสั่นจนแท้งลูกอยู่ในสระน้ำ
ลี่หานเหนียนมิใช่ไร้หัวใจ เพียงแต่ไม่รักนางเท่านั้น
“ดิฉันเปิดโทรทัศน์ให้คุณนายนะคะ จะได้ไม่เบื่อ”
เวลานี้นางพูดไม่ได้ แม้แต่หายใจยังต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจ ย่อมไม่อาจตอบได้
พยาบาลจึงหยิบรีโมทเปิดโทรทัศน์เอง
ทันทีที่โทรทัศน์เปิดขึ้น ก็ได้ยินเสียงผู้ประกาศหญิง “ประธานกลุ่มบริษัทลี่ควงคู่ดาราสาวเย่เฟยเฟยเข้าร้านชุดแต่งงาน คาดการณ์ว่าข่าวดีใกล้เข้ามาแล้ว”
“ขอโทษค่ะคุณนายลี่ ดิฉันรีบเปลี่ยนช่องเดี๋ยวนี้ค่ะ” พยาบาลรีบเปลี่ยนช่องด้วยความตกใจ
แต่ซ่งรั่วชิงก็ยังคงเห็นภาพ เย่เฟยเฟยคล้องแขนลี่หานเหนียนด้วยรอยยิ้มสดใสขณะก้าวเข้าไปในร้านชุดแต่งงาน นางกับลี่หานเหนียนแต่งงานโดยไม่มีพิธีวิวาห์ ย่อมไม่มีชุดแต่งงาน
และตำแหน่งข้างกายลี่หานเหนียนก็ไม่เคยเป็นของนาง ตอนนี้นางยังไม่ตาย เขาก็คาดหวังที่จะแต่งงานกับเย่เฟยเฟยแล้วหรือ
คุณนายลี่ นางช่างเป็นเรื่องน่าขันเสียจริง
หลังจากพยาบาลออกไป ซ่งรั่วชิงค่อยๆ ยกแขนขึ้นอย่างยากลำบาก วางบนใบหน้าของตนเอง
ช่างเถิด ชาตินี้ของนางคงมิอาจดีขึ้นได้อีกแล้ว มิหนำซ้ำยังต้องนอนทรมานอยู่บนเตียงผู้ป่วย กลายเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต เหตุใดจึงต้องยึดครองตำแหน่งคุณนายลี่นี้ไว้อีกต่อไป สู้ปล่อยให้ลี่หานเหนียนสมปรารถนา ได้เคียงคู่กับเย่เฟยเฟยไปเสียยังดีกว่า
เครื่องช่วยหายใจหลุดออกจากใบหน้า ความรู้สึกอึดอัดทำให้ศีรษะของนางขาดออกซิเจน ลมหายใจติดขัด
ทว่าซ่งรั่วชิงค่อยๆ หลับตาลง มุมปากปรากฏรอยยิ้มแห่งความหลุดพ้น
หากมีชาติหน้า นางจะอยู่ห่างจากเขาให้ไกลแสนไกล จะไม่โง่เขลาเข้าใกล้เขาดุจแมลงเม่าบินเข้ากองไฟอีก
…
กลุ่มบริษัทลี่
ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเศรษฐกิจ ตึกสูงเสียดฟ้า อาคาร 88 ชั้นมองลงมาเห็นทุกสรรพสิ่ง
ลี่หานเหนียนผู้ครอบครองชั้น 88 ทั้งชั้นเป็นสำนักงาน เพียงเอกสารในมือของเขาสักฉบับ ก็เกี่ยวข้องกับเงินนับร้อยล้าน
แต่ทว่าเวลานี้ เขานั่งเดียวดายอยู่หลังโต๊ะทำงานอันกว้างขวาง เหม่อมองเอกสารในมืออย่างใจลอย
เดิมทีเขาเป็นเพียงบุตรนอกสมรสของตระกูลลี่ ถูกคนในตระกูลรังเกียจมาตั้งแต่เด็ก ทว่าบัดนี้กลับกุมชะตาชีวิตของตระกูลลี่ไว้ในมือ ผู้คนเหล่านั้นทำได้เพียงประจบสอพลอเขา
เย่เฟยเฟยอ่อนโยนและใจกว้าง เติมเต็มความเสียใจในชีวิตของเขา
เขาไม่ควรมีสิ่งใดให้ต้องกังวลอีก ทว่าพักหลังนี้กลับรู้สึกเหมือนหัวใจว่างเปล่า โดดเดี่ยวและอ้างว้างอยู่เสมอ
ทันใดนั้นเอง ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดจากด้านนอก ผู้ช่วยเซี่ยงตงวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
ลี่หานเหนียนได้สติ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายขมวดคิ้วตำหนิ “สะเพร่า”
เซี่ยงตงผู้ซึ่งปกติแล้วจะหวาดกลัวต่อคำตำหนิของลี่หานเหนียน กลับมีสีหน้าเลื่อนลอยกล่าวว่า “ท่านประธาน เมื่อครู่โรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่า คุณนาย…”
ลี่หานเหนียนชะงักเล็กน้อย เอ่ยอย่างไม่พอใจ “นางเล่นตลกอะไรอีก เกิดอุบัติเหตุแล้วก็ยังไม่สงบลงอีก”
“…คุณนายเสียชีวิตแล้วครับ” เซี่ยงตงจึงกล่าวประโยคหลังออกมา
อากาศพลันหยุดนิ่ง ปากกาในมือของลี่หานเหนียนร่วงหล่น กลิ้งลงพื้นข้างโต๊ะทำงาน ราวกับเวลาผ่านไปนานนับศตวรรษ ลี่หานเหนียนจึงยันโต๊ะลุกขึ้นยืน
“เป็นไปไม่ได้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน นางกล้าตายได้อย่างไร” ใบหน้าของเขาซีดขาว ขากรรไกรสั่นระริก กล่าวจบก็ล้มลงกับพื้นทันที
…
ซ่งรั่วชิงตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
ความเจ็บแปลบแล่นริ้วไปทั่วไหล่ และความรู้สึกแปลกประหลาดในร่างกาย ความเจ็บปวดเช่นนี้ทำให้นางนึกถึงค่ำคืนเข้าหอของนางกับลี่หานเหนียน
นางเจ็บปวดจนลืมตาขึ้น มองสบตากับดวงตาที่แข็งกระด้างเย็นชาของชายผู้นั้น ในนั้นซ่อนไว้ด้วยความเกลียดชังและความรังเกียจราวเพลิงผลาญ
แววตาเช่นนี้ช่างคุ้นเคย เป็นลี่หานเหนียน ชายที่นางรักมาห้าปี และแต่งงานด้วยสามปี
ยังไม่ทันที่นางจะได้ตั้งสติ ชายผู้นั้นก็ลุกขึ้นผลักนางทิ้งราวเศษผ้า มือใหญ่คว้าบีบคอนางทันที
ความรู้สึกอึดอัดกลับมาอีกครั้ง
นางเคยตายด้วยความอึดอัด ความเจ็บปวดที่หายใจไม่ออกทำให้รูม่านตาของนางขยายใหญ่ ร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
นางไม่มีความกล้าที่จะเผชิญกับความตายจากการขาดอากาศหายใจอีกครั้ง
ในสายตาลี่หานเหนียนกลับไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง “ซ่งรั่วชิง เธอช่างไร้ยางอาย กล้าดียังไงมาวางยาฉัน ต่อให้ฉันนอนกับเธอ เธอก็ไม่มีค่าอะไรในสายตาฉัน”
หัวใจของซ่งรั่วชิงชาหน่วง ความเจ็บปวดที่คุ้นเคยนี้ นางเคยประสบมาสามปี เต็มไปด้วยความหวังครั้งแล้วครั้งเล่า และต้องเจ็บปวดสาหัสครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็ดับสูญในความสิ้นหวัง
แต่เรื่องวางยา!
นางตายไปแล้วมิใช่หรือ แล้วจะวางยาลี่หานเหนียนได้อย่างไร
มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น คือคืนเข้าหอ นางรู้ว่าลี่หานเหนียนจะไม่นอนค้าง จึงวางยาในสุราของเขา ทั้งสองจึงมีความสัมพันธ์กันเพียงครั้งนั้น
และครั้งนั้นเองที่นางตั้งครรภ์ เพียงแต่เสียดายที่นางรักษาไว้ไม่ได้ และยังแท้งลูกในฤดูหนาวจนมดลูกเย็น ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก
ทั้งหมดนี้คือราคาที่สวรรค์ลงโทษนางที่ดึงดันรั้งชายผู้นี้ไว้
ขณะที่ซ่งรั่วชิงกำลังจะหมดสติเพราะขาดอากาศหายใจ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน
ชายที่บีบคอนางอยู่คว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมอย่างรีบร้อน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยท่าทีร้อนรน น้ำเสียงที่เปล่งออกมากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและอดทน “เฟยเฟย…”
เย่เฟยเฟย?
นางตายไปแล้ว ยังคงหนีไม่พ้นคนทั้งสองนี้อีกหรือ
อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้าสู่ร่างกาย ซ่งรั่วชิงไออย่างรุนแรงบนเตียง ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาล สภาพแวดล้อมรอบข้างคุ้นเคยมาก อักษร “囍” สีแดงติดอยู่บนผนัง นางชอบพิธีแต่งงานแบบจีน จึงตกแต่งห้องหอให้มีกลิ่นอายโบราณ ผ้าปูที่นอนสีแดงสด ผ้าม่านสีแดง ทุกสิ่งเป็นสีแดง
กระทั่งตัวอักษร “囍” นางยังตั้งใจเรียนรู้จากอินเทอร์เน็ต ตัดด้วยกรรไกรทีละตัวๆ จนมือถูกบาด
นี่คือห้องหอที่นางตกแต่งด้วยมือของตนเอง ห้องหอของนางกับลี่หานเหนียน
“…ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
ไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไร ลี่หานเหนียนก็มีน้ำเสียงร้อนรนขึ้นมาทันที
ซ่งรั่วชิงค่อยๆ ได้สติ พยุงตัวลุกขึ้นนั่ง มองลี่หานเหนียนรีบร้อนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็ไม่แม้แต่จะชายตามองนาง หันหลังเดินจากไปทันที
ราวกับนางเป็นเพียงอากาศธาตุ มิใช่ภรรยาใหม่ของเขา ทั้งที่ทั้งสองเพิ่งจะพลอดรักกันบนเตียง กลับไม่ได้รับแม้แต่แววตาจากเขา
และทั้งหมดนี้ ซ่งรั่วชิงคุ้นชินมานานแล้ว ความคุ้นเคยที่ฝังลึกอยู่ในกระดูก
จนกระทั่งร่างของลี่หานเหนียนลับสายตาไป นางจึงนึกขึ้นได้ว่า คืนเข้าหอ หลังจากที่นางวางยาลี่หานเหนียน เย่เฟยเฟยโทรมาตามลี่หานเหนียนไป
ต่อมานางจึงรู้ว่า แท้จริงแล้วเย่เฟยเฟยข้อเท้าแพลง
สำหรับเย่เฟยเฟย แม้เพียงแค่ผิวถลอก ลี่หานเหนียนก็จะถือเป็นเรื่องใหญ่โต
ส่วนนาง แม้จะประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียชีวิตในโรงพยาบาล สำหรับเขาก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
เมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ซ่งรั่วชิงก็พลันได้สติ เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองออกมา มองวันที่บนหน้าจอที่สั่นเทา 6 กันยายน 2018 นี่คือคืนเข้าหอของนางกับลี่หานเหนียน
หลังจากตรวจสอบซ้ำหลายครั้ง ซ่งรั่วชิงจึงแน่ใจว่า นางกลับมาเมื่อสามปีก่อนแล้ว
นาง…ได้เกิดใหม่